TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnist“ภูเก็ตโมเดล” รับท่องเที่ยวกู้เศรษฐกิจ

“ภูเก็ตโมเดล” รับท่องเที่ยวกู้เศรษฐกิจ

หลังจากประชุมครม.สัญจร ที่ จ.ระยอง “ลุงตู่” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวภายหลังการประชุมถึงแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนตุลาคมนี้ว่า เป็นการเสนอโดยการนำเข้าที่ประชุมจากศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือศบศ. โดยจะมีการประเมินถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจท่องเที่ยว การรักษาพยาบาลจากคนต่างประเทศ และการท่องเที่ยวเฉพาะทาง

นับเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลเริ่มขยับเรื่องนี้ ตอนนี้เมืองท่องเที่ยวทุกแห่งอยู่ในสภาพ “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” คาดว่าจะเป็นอย่างนี้อย่างน้อย 2 ปี ลำพังอาศัยคนไทยให้ช่วยกันเที่ยวในประเทศทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 20 ล้านคนที่หายไป ก็คงเป็นแค่น้ำจิ้ม สถานการณ์เศรษฐกิจอย่างนี้หากินไปวัน ๆ ก็ลำบาก คงไม่มีอารมณ์เที่ยว จะเห็นได้จากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่รัฐบาลอุตส่าห์ควักกระเป๋าจ่ายสมทบ 40% ยังไปเที่ยวกันจิ๊บจ๊อย ต้องขยายเวลาเที่ยวจาก 5 วันเป็น 10 วัน

ดังนั้น การที่รัฐบาลหยิบ “ภูเก็ตโมเดล” มานำร่องเป็นเรื่องดีที่อย่างน้อยก็ได้พยายามหาทางออกดีกว่าอยู่เฉย ๆ ยังไงก็ดีกว่าการเปิดแบบ Travel Bubble โดยที่ยังไม่พร้อม

การเลือกพื้นที่ภูเก็ตทดลองทำโครงการนำร่องก็มีความเหมาะสม เพราะสภาพภูมิศาสตร์เอื้อต่อการทดลอง เนื่องจากมีสภาพเป็นเกาะบริหารจัดการได้ง่ายกว่าพื้นที่ทั่วไป จึงอยากเสนอไอเดียเผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

เริ่มต้นจะต้องหยิบเอา “จุดแข็ง”​ของเราที่คนทั่วโลกยอมรับมาเป็น “จุดขาย”​คือ บรรดา “อสม.” และบุคคลากรทางการแพทย์ แต่คราวนี้ ต้องอบรมอสม. ในพื้นที่ให้มีความเข้าใจเรื่องการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเข้มข้นพร้อมกับ “เอ็กซเรย์”​ทั่วเกาะภูเก็ตอย่างละเอียดยิบว่าปลอดจากโควิด-19 จริง ๆ

หลังจากนั้น ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ ให้มีความรู้ความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครคัดค้านและจะให้ความร่วมมืออย่างดี เพราะทุกวันนี้ภูเก็ตไม่มีนักท่องเที่ยวคนก็ไม่มีรายได้ เมื่ออสม.และบุคคลากรทางการแพทย์พร้อม ประชาชนเข้าใจรัฐบาลต้องประกาศให้รู้กันทั่วไปว่าภูเก็ตเป็นพื้นที่ปลอด โควิด-19 พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ทันที

ในส่วนของโรงพยาบาลในภูเก็ตทุกแห่งต้องเตรียมตัวพร้อมรับมือหากมีเคสเกิดขึ้นจริง ๆ อีกทั้งจะต้องมีจุด “เช็คพ๊อยท์” ตลอดเส้นทางชาวบ้านต้องการ์ดไม่ตก นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา ต้องมาโดยเครื่องบิน “เช่าเหมาลำ” ตรงมาลงสนามบินภูเก็ตเท่านั้น ไม่ต้องแวะที่อื่น

ทุกคน จะต้องมีบัตรการันตีสุขภาพจากต้นทาง แล้วเข้าโครงการ State Quarantine ในโรงแรมที่รัฐจัดไว้ กักบริเวณ 14 วัน ตามระเบียบไปจะไหนไม่ได้ต้องอยู่เฉพาะบริเวณโรงแรม ซึ่งในภูเก็ตมีโรงแรมดี ๆ สวย ๆ มากมาย มีหาดส่วนตัว ธรรมชาติที่สวยงาม อาหารอร่อย มีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น นวดสปา การแสดงมีโชว์ต่าง ๆ ไม่ให้น่าเบื่อ

หลังจากกักตัวครบ 14 วัน นักท่องเที่ยวเหล่านี้ถือว่าปลอดภัยแล้ว จะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ในภูเก็ต หรือในประเทศไทย
ถามว่ามาตรการยุ่งยากค่าใช้จ่ายแพงอย่างนี้จะมีใครมาเที่ยว ก็ต้องบอกว่านักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่เบื่อไม่อยากอยู่ประเทศตัวเองที่มีความเสี่ยง พร้อมจะมาเที่ยวภูเก็ตเป็นเวลานาน ๆ มีมากมาย คนพวกนี้รู้สึกว่าอยู่บ้านตัวเองก็ไปไหนไม่ได้มาเที่ยวที่ปลอดภัยดีกว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนมีเงินพร้อมจ่าย

หาก “ภูเก็ตโมเดล” ประสบความสำเร็จ ก็อาจจะขยายไปพื้นที่เกาะต่าง ๆ เช่น เกาะสมุย เกาะเสม็ด เกาะช้าง หรือที่อื่น ๆ อาจจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักได้บ้าง เพราะขืนปล่อยให้เมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตเงียบเหงาเหมือนเกาะร้างอย่างนี้ อีกไม่กี่เดือนคนอดตายกันทั้งเมือง

เหนือสิ่งใด “ภูเก็ตโมเดล” อาจจะแปรวิกฤติเป็นโอกาส เรียกความรู้สึกของ​ “ไข่มุกอันดามั” ในอดีตกลับคืนมา นั่นคือ จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวราคาแพง เน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าปริมาณ ไม่เน้นมากันเยอะ ๆ แต่จ่ายน้อย ๆ แบบเมื่อก่อน ที่มีคนเป็นห่วงว่าเปิดประเทศแล้วอาจจะเกิดการระบาดรองสองก็ต้องบอกว่า ทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวัง ต้องเตรียมพร้อมรับมือกันเต็มที่ แต่ถ้ายังปิดประเทศไม่กล้าเปิด ก็จะมีคนไม่น้อยที่จะอดตายน่ากลัวกว่าตายเพราะโควิด-19

ต้องวัดใจรัฐบาลว่าจะเดินหน้าวัดดวงเพื่อความอยู่รอด หรือจะรอจนชัวร์แต่คนจะอดตายไปเสียก่อน

ทวี มีเงิน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ