ปัจจุบันวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด -19 เป็นที่ต้องการของประชาชน ชาวไทยที่มีความตื่นตัวอยากรับวัคซีนจำนวนมาก นับถอยหลังไปตั้งแต่เมื่อ วันที่ 9 เมษายน 2564 (คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 5/2564) แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวน 18 คน โดยมี ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 – กระทรวงมหาดไทย (ศบค. มท.) เป็นประธาน
ส่วนคณะกรรมการที่เหลือมาจากทีมคณะแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข องค์การเภสัชกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน คณะกรรมการชุดนี้ มีหน้าที่ในการจัดหาวัคซีนเพื่อใช้ในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน และดำเนินการอื่น ๆ ตามที่นากยกรัฐมนตรีมอบหมาย
ต่อมาในวันที่ 23 เม.ย. 2564 เมื่อเวลา 21.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งมีตนเองเป็นประธาน ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องจัดหาวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับประชาชน 50 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2564
จากวันนั้นถึงวันนี้ คนไทยบางส่วนได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บางส่วน ข้อมูลวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 จำนวนที่แจกจ่าย 15,960,778 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรก 12,307,788 โดส (18.6% ของประชากร) ผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 จำนวน 3,652,990 โดส (5.5% ของประชากร)
หากแบ่งตามยี่ห้อวัคซีน แบ่งเป็น
- ซิโนแวค เข็มที่ 1 จำนวน 4,730,460 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 3,386,177 โดส
- วัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 1 จำนวน 6,913,815 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 225,211 โดส
- วัคซีน Sinopharm เข็มที่ 1 จำนวน 663,513 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 41,602 โดส
- ธุรกิจขนส่งพัสดุ อาจเป็นวิกฤติ จากที่เติบโตแบบพุ่งทะยานมาตลอด
- ถอดกรณีศึกษา foodpand เมื่อแบรนด์ไม่มีที่ยืน
ยังคงเหลือเวลาอีกประมาณ 158 วัน (จากวันที่ 26 กรกฎาคม 2564) ถึงระยะเวลาที่ตั้งเป้าไว้ มีประชาชนอีกจำนวนมาก ที่รอคอยวัคซีนอย่างใจจดจ่อและอยากฉีดเพื่อป้องกันตัวเองจากไวรัสโควิด ในขณะที่มีวัคซีนที่ขณะนี้ ผ่านการขึ้นทะเบียนจาก คณะกรรมการอาหารและยาในประเทศไทย แล้ว 6 ยี่ห้อ ประกอบด้วย
- วัคซีนแอสตราเซเนกา (Vaccine AstraZeneca) นำเข้าโดยบริษัท แอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด อนุมัติเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564
- วัคซีนซิโนแวค (Sinovac) หรือ วัคซีนโคโรนาแวค (CoronaVac) นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) อนุมัติเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564
- วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) หรือ COVID-19 Vaccine Janssen นำเข้าโดยบริษัท แจนเซ่น – ซีแลก จำกัด อนุมัติเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564
- วัคซีนโมเดอร์นา (Vaccine Moderna) นำเข้าโดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด อนุมัติเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564
- วัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) หรือ Vaccine (Vero Cell), Inactivated COVILO (BIBP) นำเข้าโดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด อนุมัติเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564
- วัคซีนโคเมอร์เนตี (COMIRNATY VACCINE) นำเข้าโดย บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทย จำกัด อนุมัติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564
จากวัคซีน 6 ยี่ห้อนี้ มีการนำเข้าและฉีดไปแล้ว แบ่งเป็น
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ชื่ออย่างเป็นทางการ: AZD 1222 ประเทศไทยมีการทำสัญญาสั่งซื้อทั้งสิ้น จำนวน 61 ล้านโดส แบ่งเป็น จำนวน 26 ล้านโดส เซ็นสัญญา (concluded) เดือนมกราคม 2564 และซื้อเพิ่มอีก 35 ล้านโดส เซ็นสัญญาเดือน พ.ค.2564 โดยจะใช้เป็นวัคซีนหลักของประเทศไทย มีการส่งมอบรวม 11.3 ล้านโดส ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม
ล็อตแรกนำเข้ามาประเทศไทย วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 117,300 โดส
ล็อตที่ 2 วันที่ 28 พฤษภาคม จำนวน 242,100 โดส
ล็อตที่ 3- 8 ในเดือนมิถุนายน แบ่งเป็น
วันที่ 4 มิถุนายน จำนวน 1,787,100 โดส
- วันที่ 16 มิถุนายน จำนวน 610,000 โดส
- วันที่ 18 มิถุนายน จำนวน 970,000 โดส
- วันที่ 23 มิถุนายน จำนวน 593,300 โดส
- วันที่ 25 มิถุนายน จำนวน 323,600 โดส
- วันที่ 30 มิถุนายน จำนวน 846,000 โดส
ล็อตที่ 9 – 13 เดือนกรกฎาคม แบ่งเป็น
- วันที่ 3 กรกฎาคม จำนวน 590,000 โดส
- วันที่ 9 กรกฎาคม จำนวน 555,400 โดส
- วันที่ 12 กรกฎาคม จำนวน 1,053,000 โดส
- วันที่ 16 กรกฎาคม. จำนวน 505 ,700 โดส
- สิ้นเดือน กรกฎาคม จำนวน 2,300,000 โดส
ส่วนวัคซีน ซิโนแวค (Sinovac) ชื่ออย่างเป็นทางการ: โคโรนาแวค ประเทศไทยสั่งซื้อจำนวน 19.5 ล้านโดส และมีแผนจะจัดหาอีก 28 ล้านโดส รวม 47.5 ล้านโดส
จำนวน 15 ล็อต รวมทั้งสิ้น 13 ล้านโดส ไม่นับรวมวัคซีนที่รัฐบาลปักกิ่งบริจาคให้กับประเทศไทย
- ล็อตที่ 1 วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 200,000 โดส
- ล็อตที่ 2 วันที่ 20 มีนาคม 2564 จำนวน 800,000 โดส
- ล็อตที่ 3 วันที่ 10 เมษายน 2564 จำนวน 1,000,000 โดส
- ล็อตที่ 4 วันที่ 24 เมษายน 2564 จำนวน 500,000 โดส
- ล็อตที่ 5 วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 จำนวน 1,000,000 โดส
- ล็อตที่ 6 วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 จำนวน 500,000 โดส
- ล็อตที่ 7 วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 จำนวน 500,000 โดส
- ล็อตที่ 8 วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 จำนวน 500,000 โดส
- ล็อตที่ 9 วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 จำนวน 1,500,000 ล้านโดส
- ล็อตที่ 10 วันที่ 5 มิถุนายน 2564 จำนวน 500,000 โดส
- ล็อตที่ 11 วันที่ 10 มิถุนายน 2564 จำนวน 1,000,000 โดส
- ล็อตที่ 12 วันที่ 23 มิถุนายน 2564 จำนวน 2,000,000 โดส
- ล็อตที่ 13 วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1,000,000 โดส
- ล็อตที่ 14 วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 จำนวน 2,000,000 โดส
- ล็อตที่ 15 วัคซีนเร่งด่วน จำนวน 10.9 ล้านโดส ในกรอบวงเงิน 6,111.412 ล้านบาท
วัคซีนโทซินาเมแรน (Tozinameran) โดยบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทค ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทำสัญญาสั่งซื้อจำนวน 20 ล้านโดส โดยจะส่งมอบกันประมาณ ไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2564 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา ได้บริจาควัคซีนไฟเซอร์ให้ประเทศไทย จำนวน 1.54 ล้านโดส จะส่งมอบปลายเดือนกรกฎาคม ล่าสุด แทมมี ดักเวิร์ธ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เชื้อสายไทย เผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีเป้าหมายบริจาควัคซีนโควิด-19 ให้ไทยเป็นล็อตที่ 2 อีกจำนวน 2.5 ล้านโดส
ส่วนวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ชื่ออย่างเป็นทางการ: mRNA-1273 ประเทศไทย โดยองค์การเภสัชกรรม ได้ลงนามกับบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จํากัด ในนามบริษัท แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย ในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา จำนวนประมาณ 5 ล้านโดส โดยจำนวนนี้ 1 ล้านโดสเป็นของสภาการชาดไทย ส่วนที่เหลือจะเป็นของสมาคมโรงพยาบาลเอกชน วัคซีนโมเดอร์นาจะทยอยนำเข้าประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 ต่อเนื่องไตรมาส 1 ปี 2565
วัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ชื่ออย่างเป็นทางการ: BBIBP-CorV โดยบริษัท Beijing Institute of Biological Product (ปักกิ่ง) และ บริษัท Wuhan Institute of Biological Product (อู่ฮั่น) ประเทศจีน เป็นวัคซีนทางเลือกประเทศไทยโดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้นำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มล็อตแรก จำนวน 1 ล้านโดส เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา และได้จัดสรรให้องค์กรและหน่วยงาน 5,199 องค์กร คิดเป็นจำนวนผู้รอรับวัคซีนในองค์กรเหล่านี้ 476,682 คน ราคาเข็มละ 888 บาท
นอกจากนั้นยังมีการนำเข้าวัคซีน ซิโนฟาร์ม อีก 3 ล็อต แบ่งเป็น
ล็อตที่ 2 วันที่ 4 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
ล็อตที่ 3 วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
ล็อตที่ 4 วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
จะเห็นได้ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมี วัคซีน 4 ยี่ห้อที่นำเข้ามาและฉีดให้คนไทย แต่จำนวนวัคซีนยังไม่เพียงพอที่จะฉีดให้ครอบคุลมเป้าหมาย ที่คณะรัฐบาลตั้งเป้าจะฉีดให้ครบ 50 ล้นคน 100 ล้านโดส และคาดว่าไตรมาสที่ 4 จะมีจำนวนวัคซีนมากเพียงพอสำหรับคนไทย นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2565 เราจะมีวัคซีนของคนไทย โดยคนไทยได้ฉีดใคนไทยกันด้วย