TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessDAAT X DIQ Academy เปิดคอร์สดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอัปสกิลนักการตลาด   

DAAT X DIQ Academy เปิดคอร์สดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอัปสกิลนักการตลาด   

ปัญหาหลักอย่างหนึ่ง ของวงการการตลาดดิจิทัลบ้านเราคือการขาดแคลนทาเลนต์ อาจจะเพราะนักศึกษาใหม่ที่จบมาได้รับการสอนมาแต่ทฤษฎี การจะเพิ่มพูนทักษะด้านการตลาด ต้องอาศัยคนมีประสบการณ์มาช่วยแชร์องค์ความรู้ในโลกแห่งความเป็นจริง สมาคมโฆษณาดิจิทัล ประเทศไทย (DAAT) และ DIQ Academy จึงร่วมมือกันออกหลักสูตรออนไลน์ “Digital Marketing DNA” ให้นักการตลาด และบุคคลทั่วไป สามารถเรียนออนไลน์ และสอบยกระดับความรู้ด้านสายงาน Digital Marketing กับ DAAT Score พร้อมรับใบประกาศนียบัตรที่ออกและรับรองโดย DAAT และ DIQ Academy เป็นครั้งแรก

โศรดา ศรประสิทธิ์ เลขานุการ DAAT และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ปับลีซิส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นผ่านความร่วมมือระหว่าง DAAT และ DIQ Academy   ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมมีทักษะหลักและกลยุทธ์นวัตกรรมที่จำเป็นในสาขาการตลาดและโฆษณาดิจิทัล  ตั้งแต่ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหลักการการตลาดดิจิทัลไปจนถึงทักษะขั้นสูงในการวิเคราะห์ กลยุทธ์ ดาต้า และกฎหมาย  ซึ่งถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานและความคาดหวังของอุตสาหกรรม

โศรดา กล่าวว่า ทาง DAAT มีการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญจากทุกวงการมาเป็นผู้สอน ผู้เข้าอบรมหลักสูตรยังจะได้สอบวัดระดับความรู้กับ DAAT Score หรือข้อสอบที่ออกโดยผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งถือเป็นการวัดระดับความรู้ที่เชื่อถือได้ เมื่อสอบผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดก็จะได้รับประกาศนียบัตรจาก DAAT

“ใบเบิกทางสู่การมีงานทำ”

“หลักสูตรนี้เป็นมากกว่าเพียงใบประกาศนียบัตรที่เรามอบให้ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพ สำหรับผู้ที่ปรารถนาจะเป็นมืออาชีพด้านการตลาดดิจิทัล เพื่อช่วยผลักดันขีดจำกัด สร้างนวัตกรรม และขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรมของเราไปข้างหน้า” โศรดากล่าว

ณธิดา รัฐธนาวุฒิ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร สถาบันการเรียนรู้อัปสกิลแห่งใหม่ DIQ Academy.com

ณธิดา รัฐธนาวุฒิ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร สถาบันการเรียนรู้อัปสกิลแห่งใหม่ DIQ Academy.com กล่าวว่า การร่วมมือกับ DAAT เพื่อเปิดตัวหลักสูตร “Digital Marketing DNA”  นี้ ไม่เพียงเป็นการเสนอหลักสูตรทางด้านการการตลาดเท่านั้น แต่ยังออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างและยกระดับอุตสาหกรรมการตลาดและโฆษณาให้สูงขึ้นอีกขั้น

“เราไม่บังคับให้ทุกคนต้องสอบ DAAT Score แต่บริษัทที่เราไปสมัครงานอาจจะรับเราเข้าทำงานเพราะเราสอบผ่าน” ณธิดากล่าว

หลักสูตร “Digital Marketing DNA” มีด้วยกันทั้งหมด 10 คอร์สเรียนที่ครอบคลุมในทุกองค์ความรู้ของการตลาดดิจิทัล สอนโดยผู้บริหารสายงานด้าน Digital Marketing จากเอเยนซี่โฆษณาชื่อดังของไทย ที่ได้ร่วมเป็นสมาชิกของ DAATโดยแต่ละท่านมีประสบการณ์ด้านกลยุทธ์และการทำแคมเปญการตลาดและโฆษณาบนดิจิทัล นับหลายพันชั่วโมงให้กับแบรนด์ดังมากมายและเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมโฆษณาของไทยและต่างประเทศ  ซึ่งได้มารวมตัวกันบนแพลตฟอร์ม DIQAcademy.com เพื่อยกระดับมาตรฐานความรู้ให้อุตสาหกรรมธุรกิจ การตลาด และโฆษณา ให้กับนักการตลาดไทย และบุคคลทั่วไปที่สนใจ 

ผู้ที่สนใจสมัครเรียนหลักสูตรดังกล่าวสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ DIQAcademy.com และเลือกเรียนเวลาไหนก็ได้ตามสะดวก

ทาเลนต์ขาดแคลน

พัชรี เพิ่มวงศ์อัศวะ ประชาสัมพันธ์ DAAT และผู้จัดการทั่วไปบริษัท ปับลีซิส มีเดียซึ่งเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ Digital Marketing และ Media Marketing ให้กับแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลก กว่า 100  แบรนด์ให้มุมมองว่า ทาเลนต์ในวงการการตลาดดิจิทัลตอนนี้โตไม่ทันความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การจะให้อุตสาหกรรมการตลาดและโฆษณาดิจิทัลโตได้เพื่อบรรลุเป้าหมายของ DAAT ความท้าทายคือเราต้องสร้างทาเลนต์ด้วย เราจึงต้องมีหลักสูตรมาพัฒนาทาเลนต์ในสายงานนี้

เอกชัย ปาริชาติกานนท์ กรรมการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ DAAT และกรรมการผู้จัดการบริษัท วินเทอร์อีเจนซี่ จำกัด มองว่าทาเลนต์เป็นรากฐานของปัญหา และ DAAT Score เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นมาตรวัดทาเลนต์ของคน เวลาสัมภาษณ์คนมาสมัครงานเราจะรู้เลยว่าเขาได้รับการสอนวิชาพื้นฐานการตลาดจากมหาวิทยาลัย แต่พอมาเจอพี่ๆ ที่มีประสบการณ์การทำงานก็จะได้รับองค์ความรู้ที่เปลี่ยนไป  DAAT Score เกิดขึ้นเพื่อให้น้องๆ มีการอัพเดทพื้นฐานความรู้ในโลกของความเป็นจริง ซึ่งหลักสูตรนี้ถือเป็นบันไดที่จะให้น้องๆ ไปถึงมาตรวัดนั้นได้

อัปเดตเทรนด์การตลาดปี 2024

พัชรี มองว่าเทรนด์ปีนี้คือ เจน AI ปีที่แล้วอาจมีเออรี่ อะดอพเตอร์ใช้ AI ช่วยพัฒนาธุรกิจ แต่บางกลุ่มยังไม่ใช้เพราะผู้บริโภคยังกังวลเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เธอมองว่าการใช้ AI เข้าถึงผู้บริโภคอย่างเดียวก็ไม่ตรงจุดเสมอไป แต่การประมวลผลที่ถูกต้องคือต้องใช้ทั้ง AI และ Data ส่วนข้อกังวลที่ว่า AI จะทำให้คนตกงานนั้น พัชรีบอกว่า ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองว่า AI เป็น Friend or Foe เป็นมิตรหรือศัตรู ถ้ามองว่า AI ทำงานร่วมกับคนได้ก็เป็น Friend แต่ถ้ามองเป็น Foe ก็ต้องเตรียมใจยอมรับในอนาคตว่า AI ไม่ใช่จะมาแทนที่มนุษย์ แต่สามารถทำให้คนทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนเทรนด์ที่ 2 คือ Eco Friendly ต่อไปทุก ๆ แบรนด์ต้องทำ Eco Friendly ทุกอย่าง แต่ในมุมผู้บริโภคก็มองว่าไม่สะดวก เช่น ใช้หลอดกระดาษ กินแล้วเปื่อยง่าย หรือไปช้อปปิ้งต้องเอาถุงไปเอง เพราะฉะนั้น แบรนด์อาจจะต้องหันกลับมามองว่าจะใช้ AI ช่วยให้ Eco Friendly เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัทเลยได้อย่างไร

เทรนด์สุดท้ายคือ อีคอมเมิร์ซ ช่วงโควิดมีการล๊อกดาวน์ คนขายสินค้าไม่ได้ ทุกแบรนด์ก็ทุ่มเงินไปที่มาร์เก็ตเพลสเพราะขายของได้ที่เดียว ตอนนี้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ อีคอมเมิร์ซต้องมาเป็น Omni Channel มากขึ้น มีร้านค้าของตัวเองเพื่อที่จะใช้ เทคโนโลยีการตลาดและ Data เก็บข้อมูลได้

อนันฑ์ ตีระบูรณะพงษ์ กรรมการฝ่ายวิชาการ DAAT และผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมและข้อมูลบริษัท ดาต้า เฟิร์ส จำกัด บอกว่า เทรนด์ที่เขามองคือการใช้ Data มาเก็บพฤติการณ์ของผู้บริโภค โดยจะเริ่มเก็บ Data จาก Content หรือเนื้อหาที่ผู้บริโภคเสพและเอามาตีความต่อ และทำโฆษณาที่ตอบความต้องการเขา ไม่ใช่ไปขัดจังหวะเขา ต้องทำอย่างไรให้โฆษณาเป็นสิ่งที่เขาอยากได้และรวม Data ในแต่ละจุดเข้าด้วยกัน ทำให้โฆษณาและ Data ไปด้วยกัน

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

‘ไอออนิกซิลเวอร์’ นวัตกรรมนาโนเทค สู่สารฆ่าเชื้อทนร้อน ทนแสง

เซ็นทรัล รีเทล ประกาศวิสัยทัศน์ 5 ปี ดันธุรกิจสู่ The Next Era ตั้งเป้าปี 67 รายได้โต 11%

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ