TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeเปิดทิศทาง "การท่องเที่ยวในราคาที่เอื้อมถึง"

เปิดทิศทาง “การท่องเที่ยวในราคาที่เอื้อมถึง”

แม้การระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้การท่องเที่ยวมีแนวโน้มว่าจะมีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงมากขึ้นเนื่องจากมีต้นทุนที่บวกเข้ามาจากการต้องบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าบรรดาขาเที่ยวเบี้ยน้อยหอยน้อยทั้งหลายจะต้องอดใจและอดทนอดกลั้นเว้นระยะห่างจากการท่องเที่ยวที่ตนเองชื่นชอบเสมอไป 

ตรงกันข้าม เหล่าผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวชั้นแนวหน้าส่วนหนึ่งต่างออกโรงคาดการณ์ทิศทางแนวโน้มอนาคตด้านการท่องเที่ยวของผู้คนทั่วโลก ภายใต้ยุค “New Normal” นับจากนี้ว่า นักท่องเที่ยวที่มีปัจจัยด้านงบประมาณเป็นข้อจำกัดหลักยังคงมีทางเลือกในการออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยราคาที่ตนเองสามารถเอื้อมถึงได้แน่นอน

โดย ทอม ลอว์รีย์ (Tom Lowry) บรรณาธิการบริหารของ Skift บริษัทข้อมูลข่าวสารและการวิจัยเกี่ยวกับแวดวงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ถึงกับมั่นใจว่า การท่องเที่ยวหลังจากนี้จะอยู่ในราคาที่ผู้คนจับต้องได้มากขึ้น เพราะบริษัททัวร์ท่องเที่ยวที่กำลังสิ้นหวังทั้งหลายจะหันมาใช้กลยุทธ์ด้านราคาดึงดูดใจผู้บริโภคกันอย่างหนัก 

ขณะที่ Jone Lovell ประธาน Travel Leaders Group เครือข่ายตัวแทนที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวที่มีสมาชิก 52,000 คน และขายโปรแกรมท่องเที่ยวทั้งแบบหรูหราและแบบประหยัด แสดงความเห็นไปในทำนองเดียวกันกับ Lowry โดยระบุว่า ความต้องการท่องเที่ยวในขณะนี้มีน้อยมาก ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างหาทางดึงดูดให้คนอยากออกมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็คือ การใช้กลยุทธ์ด้านราคา ดังนั้น ราคาสำหรับโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวต่าง ๆ จึงมีแนวโน้มอยู่ในราคาถูกยาวไปจนถึงปีหน้า 

แน่นอนว่า การเที่ยวแบบส่วนตัว หรือ การเที่ยวคนเดียว ย่อมมีราคาค่างวดต่อหัวที่แพงกว่าการเที่ยวแบบคนกลุ่มใหญ่แน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องของค่าเดินทาง ในกรณีที่ต้องเดินทางไกล ชนิดข้ามน้ำข้ามทะเลข้ามขอบฟ้า เพื่อมาเที่ยวอย่างต่างแดน 

กระนั้น ใช่ว่าจะหาทางประหยัดในส่วนของค่าเดินทางไม่ได้ ซึ่งวิธีการหรือแนวทางที่ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจท่องเที่ยว มองเห็นความเป็นไปได้ ก็คือ การเที่ยวแบบกลุ่มเล็กระหว่าง 6 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 คน หรือที่เรียกกันว่า private group ที่นักท่องเที่ยวในกลุ่มเป็นครอบครัว เครือญาติ และเพื่อนสนิทที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี

แม้ราคาสำหรับทัวร์กลุ่มเล็กแบบส่วนตัวนี้ จะไม่ได้ถูกมากถึงมากที่สุด เมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด แต่อย่างน้อยที่สุด ก็เป็นราคาที่คนทั่วไปส่วนใหญ่ เอื้อมถึง ได้  

โดยข้อได้เปรียบของการเที่ยวแบบกลุ่มเล็ก ก็คือ การที่สามารถจัดกลุ่มทัวร์ท่องเที่ยวโดยที่ยังคงปฎิบัติตามระเบียบมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างเคร่งครัดเหมาะสม 

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้ยกตัวอย่างการใช้ยานพาหนะเดินทาง ด้วยการเปรียบเทียบให้ฟังว่า กรณีที่ต้องใช้รถบัสโดยสาร การนั่งภายในรถบัสคันเล็ก มีสมาชิกทัวร์ที่รู้จักมักจี่กัน ย่อมปลอดภัยมากกว่า นั่งในรถบัสโดยสารคันใหญ่กับกลุ่มทัวร์ท่องเที่ยวที่สมาชิกเป็นคนแปลกหน้าแทบทั้งหมด

Intrepid Travel หนึ่งในบริษัทจัดทัวร์นำเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้กลับมาเปิดให้บริการท่องเที่ยวในบางประเทศแล้ว เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอังกฤษ และเตรียมจะเปิดให้บริการท่องเที่ยวในประเทศแถบอเมริกาเหนือปลายปีนี้ กล่าวว่า บริษัทยังคงราคาทัวร์นำเที่ยวไว้เท่าเดิม โดยการเที่ยวในหนึ่งทริปที่ใช้เวลา 7-10 วัน จะมีราคาเฉลี่ยต่อหัวราว 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 62,900 บาท) ซึ่งราคานี้รวมค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าเข้าชมสถานที่ ค่าเข้าร่วมกิจกรรมและมื้ออาหารส่วนใหญ่ของกลุ่มทัวร์

Leigh Barnes เสริมว่า สิ่งที่แตกต่างออกไปในการจัดทริป private group จากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ก็คือ แนวทางการจัดทัวร์ท่องเที่ยวจะต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับมาตรการด้านความปลอดภัย การเว้นระยะห่างทางสังคมและระเบียบด้านสาธารณสุขและคามปลอดภัยของรัฐบาลท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นหลัก

เช่น ในกรณีที่รถบัสท่องเที่ยว 16 คนนั่งอาจเยอะเกินไป บริษัทจะเลือกที่จะจัดให้ลูกทัวร์นั่งแยกกัน และเปลี่ยนจากรถบัสเป็นรถตู้สองคันแทน ขณะเดียวกันการเลือกที่พัก จากที่ต้องแยกแบ่งเป็นห้อง ๆ ในโรงแรม นักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวสามารถเลือกที่พักแบบบ้านเป็นหลัง หรือวิลล่า ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า

ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวหลายสำนักระบุว่า การท่องเที่ยวกับกลุ่มครอบครัวหรือเพื่อนสนิทแบบนี้ ถือเป็นการท่องเที่ยวที่ ลูกทัวร์ได้สร้าง travel bubble ส่วนตัวของตัวเองขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่ง 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่การเที่ยวล่องไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยกลุ่มเที่ยวแบบเล็ก ๆ อาจยังคงแพงเกินไป และนักท่องเที่ยวคนนั้น ๆ อาจไม่ได้มีสมาชิกมากพอ การท่องเที่ยวในราคาที่เข้าถึงได้อีกรูปแบบหนึ่งก็คือ การเที่ยวโดยอยู่ในสถานที่เดียวตลอดทั้งทริป 

แทนที่จะเที่ยวตะลอนแวะชมไปเที่ยว นักท่องเที่ยวอาจต้องเลือกเที่ยวแบบเจาะลึกในเมืองหรือสถานที่ที่ตนเลือกไปเที่ยวแทน ตัวอย่างเช่น การเที่ยวฟาร์มใน Byron Bay ของอสชอสเตรเลีย ที่มีกิจกรรมให้ผู้มาพักให้ทำอย่างหลากหลายอย่าง การเล่นกระดานโต้คลื่น การเดินป่าชมธรรมชาติ การฝึกโยคะ การเข้าร่วมคอร์สสอนทำอาหาร และการตั้งแคมป์รับประทานอาหารกลางแจ้ง

หรือในกรณีที่จะต้องเดินทาง ก็อาจเลือกเดินทางเที่ยวในละแวกใกล้เคียงกันทั้งหมด แทนที่จะต้องนั่งรถหรือใช้ยานพาหนะเดินทางข้ามเขตที่ต้องใช้เวลาในการนั่งรถยาวนาน

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ราคาค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างเมืองต่างแดนมีราคาที่เอื้อมถึงได้มากขึ้นก็คือการใช้บริการหรือขอความช่วยเหลือจากบริษัทหรือคนในพื้นที่ซึ่งเป็นเจ้าถิ่น 

อย่างในกรณีของ Airbnb ก็คือ การให้เจ้าบ้านหรือโฮสต์ เป็นไกด์นำเที่ยวแขกผู้มาเยือนเที่ยวบ้านเกิดของตนเอง โดยมีสนนราคาเฉลี่ยต่อหัวที่คนละประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 628 บาท) ซึ่ง Nyrie McKenzie โฆษกหญิงของทาง Airbnb ระบุว่า โฮสต์นำเที่ยวในพื้นที่จะได้เปรียบในแง่ของการรู้ราคา การต่อรอง และสถานที่ท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นจริง ๆ มากกว่า 

นอกจากนี้ ในกรณีของบริษัทนำเที่ยว การอาศัยความร่วมมือจากบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่จะช่วยได้มากในเรื่องของการต่อรองราคา เนื่องจากบริษัทเจ้าถิ่นมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับกิจกรรมหรือบริการอื่น ๆ ในพื้นที่ เช่น คอร์สเรียนทำอาหาร หรือ ทัวร์ปั่นจักรยาน ซึ่งบริษัทท่องเที่ยวในพื้นที่สามารถช่วยติดต่อประสานกับคอร์สเรียนหรือทัวร์ปั่น ในราคาพิเศษภายใต้เงื่อนไขที่ผู้เข้าร่วมมีจำนวนน้อยได้ 

Virginia Irurita ผู้ก่อตั้ง Made for Spain and Protugal บริษัทนำเที่ยวท้องถิ่นของสเปนและโปรตุเกสยอดนิยม กล่าวว่า การเที่ยวแบบทัวร์กลุ่มเล็ก ๆ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสที่จะได้เที่ยวแบบ “พิเศษเฉพาะ” (exclusive) อย่างแท้จริง

ขณะที่ Paul Melhus ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัททัวร์ Tours by Locals กล่าวว่า ทัวร์ท่องเที่ยวแบบส่วนตัวส่วนใหญ่จะกำหนดราคาค่าใช้จ่ายต่อทริปมากกว่าต่อหัว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่จะแชร์ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวกับครอบครัว ญาติ หรือเพื่อนในกลุ่ม โดยจำนวนสมาชิกในกลุ่มท่องเที่ยวแบบส่วนตัวที่แนะนำว่าจะช่วยทำให้ราคาเที่ยวเข้าถึงได้มากขึ้นก็คืออย่างน้อย 6 คน

แนวโน้มของ New Normal ด้านการท่องเที่ยวในราคาที่เอื้อมถึงได้โดยหลักๆ แล้วมีอยู่ 3 แนวทาง คือ

  1. การเที่ยวโดยกลุ่มขนาดเล็กที่สมาชิกรู้จักกันเป็นอย่างดี
  2. การเลือกเที่ยวแบบเจาะลึกในสถานที่หนึ่งๆ โดยเฉพาะ ลดการเดินทางด้วยยานพาหนะให้เหลือน้อยที่สุด หรือหากเดินเท้าได้จะเป็นการดีมาก และ
  3. การอาศัยหรือขอความช่วยเหลือจากบริษัทนำเที่ยวหรือคนในพื้นที่โดยเฉพาะ 

บรรดาผู้ประกอบการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกต่างสรุปตรงกันว่า ต่อให้สถานการณ์การท่องเที่ยวจะเผชิญวิกฤตติดขัดอย่างไร แต่ท้ายที่สุด การท่องเที่ยวยังคงถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมผ่อนคลายหย่อนใจยอดนิยมของคนเกือบค่อนโลก ดังนั้น ต่อให้มีค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางเพิ่มมากขึ้น แต่ท้ายที่สุด ผู้คนก็จะแสวงหาหนทางท่องเที่ยวในราคาที่ตนเข้าถึงได้อยู่ดี เพียงแต่ผู้ประกอบการจะต้องมองหาแนวทางดังกล่าว และเข้าไปตอบสนองให้เร็วที่สุดเท่านั้น 

แปลและเรียบเรียงจาก : CNN Travel

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ