TH | EN
TH | EN
หน้าแรก Interview “อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย” กับภารกิจขับเคลื่อน "คลาวด์กลางภาครัฐ" ยกระดับบริการรัฐสู่โลกดิจิทัล

“อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย” กับภารกิจขับเคลื่อน “คลาวด์กลางภาครัฐ” ยกระดับบริการรัฐสู่โลกดิจิทัล

ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นในหลายแง่มุมและเกือบจะพูดได้ว่าเทคโลยีมีผลกับชีวิตของทุกคนมากขึ้น ทำให้ภาครัฐซึ่งมีเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่มีบริการจำนวนมากที่ต้องให้บริการประชาชนและธุรกิจ จำเป็นจะต้องขยับปรับแผนยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยี เพื่อนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการทำงานระหว่างภาครัฐเองและ ให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

แม้ว่าต่างกระทรวงต่างหน่วยงานต่างลงมือทำในต่างวาระกัน แต่ทว่ารัฐบาลได้ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นแม่งานในการจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับให้บริการหน่วยงานราชการที่อาจยังไม่พร้อมที่จะลงทุนระบบเอง รวมถึงเพื่อเป็นต้นแบบและมาตรฐานกลางสำหรับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเอื้อให้การทำงานข้ามระหว่างหน่วยงานมีมาตรฐานเดียวกัน

โครงการคลาวด์กลางภาครัฐ​ คือ หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะขับเคลื่อนงานและการให้บริการภาคประชาชน ที่ได้รับการบรรจุไว้ในงบแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า คลาวด์เป็นเทคโนโลยีที่มากกว่าการเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูล แต่ตอบโจทย์เรื่องความยืดหยุ่นในการให้บริการ มีความปลอดภัยในระดับสูง เหมาะสมกับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศและของโลกที่มุ่งสู่การเป็น Sharing Economy เช่นเดียวกับหน่วยงานภาครัฐทั้งหลายที่ต้องมีการแชร์ข้อมูลและทรัพยากรที่มีอยู่ระหว่างกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data, Data Center and Cloud) ตั้งแต่ปี 2561 มีเป้าหมายให้หน่วยงานภาครัฐสามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์เพื่อบริการประชาชน เพื่อวางนโยบายหรือตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที

“คลาวด์ คือ เทคโนโลยีที่ช่วยบริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพ มีเรื่องของการแชร์ ใช้ และบูรณาการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ จึงออกมาเป็นนโยบายที่ภาครัฐพึงจะต้องใช้คลาวด์ เพราะเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้ข้อมูล หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในระบบไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวลำพัง แต่สามารถที่จะเข้ามาทำงานจากที่ไหนก็ไหน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมออนไลน์ หรือการทำงานจากทางไกลทั้งหลาย”

แผนการประยุกต์ใช้คลาวด์ ผ่านครม.เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 โดยมีหลักการ คือ ภาครัฐจะต้องใช้บริการคลาวด์ที่ได้มาตรฐาน มีการออกเป็นคู่มือมาตรฐานของคลาวด์ (Tier 3+) 

“คลาวด์ที่ไม่ได้มาตรฐานจะขาดความน่าเชื่อถือ มีความเสี่ยงเกินไป และจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ จะต้องมีการจัดเก็บข้อมูลอยู่ในรูปแบบดิจิทัลที่จะต้องมีการแลกเปลี่ยนบูรณาการกันได้” 

รัฐบาลเห็นชอบให้มี “คลาวด์กลางภาครัฐ”  (Government Cloud) โดยให้กระทรวงดีอีรับผิดชอบโดยตรงในการดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหมายรวมถึงการจัดให้มีคลาวด์กลางภาครัฐที่เรียกว่า GDCC หรือ Government Data Center and Cloud Service

รวมถึงการกำหนดให้หน่วยงานภาครัฐจะต้องทำ Data Governance Framework เพื่อเป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนข้อมูล คุณภาพและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยมีตั้งศูนย์โครงสร้างพื้นฐานกลางและมีหน่วยงานกลางที่จะมาให้บริการ ทำหน้าที่เป็นผู้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ให้ภาครัฐฯ ที่ชื่อว่า GBDI หรือ Government Big Data Institute ขึ้น 

ระบบคลาวด์ สามารถจัดแบ่งออกมาได้เป็น 3 กลุ่ม คือ โครงสร้างพื้นฐาน การจัดการดาต้าและระบบความปลอดภัยทั้งหมด และแอปพลิเคชัน ทั้งหมดนี้เป็น 3 ข้อหลัก ๆ ในมติครม. คือ กำหนดให้ภาครัฐต้องใช้คลาวด์ จัดหาคลาวด์กลางภาครัฐโดยกระทรวงดิจิทัล ให้ภาครัฐต้องจัดทำ Data Governance Framework และจัดตั้งสถาบันวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่

ฉะนั้น จึงพยายามผลักดันแผนการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อให้มีบริการคลาวด์กลาง ทั้ง GDCC หรือ GBDI ของภาครัฐ เพื่อให้ทุกคนมาเป็นผู้ใช้”

GDCC  และ GBDI เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 หรือในปีงบประมาณ 2563

โควิด-19 ทำให้คลาวด์เป็นที่ต้องการใช้งานเกือบทุกหน่วยงานภาครัฐ จะเห็นว่าในปี 2564 มีแอปพลิเคชันของภาครัฐเกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหมอพร้อม หรือ ไทยชนะ 

“จากปี 2562-2564 เรามีความต้องการใช้คลาวด์เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า ด้วยเพราะว่าการใช้คลาวด์เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น  และด้วยเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกคนเรียนรู้ว่าจะขึ้นระบบแพลตฟอร์มอะไร ต้องจัดการที่ไหนอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่ทำแอปพลิเคชันขึ้นมา 1 แอปฯ แล้วเปิดตัวออกไป ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดี มีความต้องการเข้ามาเยอะ ตามระเบียบภาครัฐก็ต้องไปตั้งงบมาซื้ออีกตัวหนึ่งเพิ่มเข้ามา กว่าคุณจะจัดซื้อได้ กว่าคุณจะนำมาใช้งานได้ ก็ไม่ทันการณ์แล้ว”

แผนงานคลาวด์กลางภาครัฐของกระทรวงดีอี เป็นไปตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติตามมติครม.ที่ออกมา ซึ่งในส่วนที่กระทรวงดีอีทำได้ก็คือการจัดการภายในกระทรวงดีอีก่อน ด้วยการกำหนดให้ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงดีอีต้องไปใช้ระบบคลาวด์กลางก่อน ขณะที่ในส่วนของการขยายกรอบการทำงานและแนวทางปฏิบัติไปยังกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆ สามารถทำได้ผ่านสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล หรือ สพร. ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้คอยผลักดัน

แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี 

ภาครัฐมีแนวทางการพัฒนาคลาวด์ มีนโยบาย มีการกำหนดเป็นบทบัญญัติทางกฎหมาย และกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบเรียบร้อยแล้ว 

ปัจจุบัน ทุกหน่วยงานรวมถึงกระทรวงดีอีกำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำยุทธศาสตร์แผนระดับปฏิบัติการ ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2570 ซึ่งจะส่งผลให้แผนการใช้งานคลาวด์จะดำเนินการไปไกลมากขึ้น ส่งผลให้ภาครัฐและประชาชนจะได้รับประโยชน์จากระบบคลาวด์แน่นอน

อัจฉรินทร์ กล่าวว่า ทิศทางการเติบโตของการใช้บริการออนไลน์ของภาครัฐ มีโอกาสเติบโตพุ่งพรวดแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วได้ทุกเมื่อ เช่น ในกรณีของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นแล้ว การใช้คลาวด์จะทำให้หน่วยงานมีขีดความสามารถที่จะขยายขนาดเพื่อรองรับความต้องการใช้บริการอย่างมหาศาลได้ ทั้งยังช่วยในเรื่องของการประหยัดต้นทุน โดยยังไม่นับรวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยของระบบคลาวด์ที่เชื่อถือไว้ใจได้

“ความสะดวกในการทำงาน ความเชื่อมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์ ความสามารถในการดำเนินการ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในโลกยุคใหม่ ซึ่งมันไม่มีหน่วยงานไหนที่ทำงานแบบโชว์เดี่ยว สแตนด์อโลน โดยสิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือความสามารถในการเชื่อมโยงและมีการบูรณาการให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งคลาวด์จะตอบโจทย์และให้ความยืดหยุ่นในส่วนนี้”

ประโยชน์จากการใช้คลาวด์ของหน่วยงานภาครัฐ คือ การให้บริการออนไลน์เรียลไทม์ แบบทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยทำให้หน่วยงานภาครัฐต้องปรับตัว ไม่มีคำว่า บริการใน “เวลาราชการ” อีกต่อไป ยกตัวอย่างเช่น การสมัครหมอพร้อม การตรวจสอบคิวจองวัคซีน ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็เข้ามาใช้บริการตามเวลาสะดวกของตน ที่มักจะไม่ใช่ในเวลาราชการ

ในส่วนของการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย อัจฉรินทร์กล่าวว่า 

นอกจากนี้ คลาวด์ยังยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐดีขึ้น ต้นทุนที่ประหยัดกว่า และมีการแชร์และนำข้อมูลมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ

คลาวด์เป็นเรื่องของเทคโนโลยีและมาตรฐาน ประเด็นหลักที่คนให้ความสำคัญสำหรับการรับนำเอาคลาวด์มาใช้ คือ ความมั่นคงและความปลอดภัยของระบบคลาวด์ ซึ่งในฐานะของรัฐย่อมครอบคลุมถึงประเด็นด้านความมั่นคงของชาติ 

ในตลาดมีผู้ให้บริการระบบคลาวด์หลายราย และหนึ่งในนั้นคือ AWS ที่เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หน่วยงานใหญ่ ๆ ชั้นนำของโลกใช้บริการ ในประเทศไทยมีธนาคารต่าง ๆ ใช้งาน สำหรับ GDCC เองก็มีความร่วมมือในการใช้เทคโนโลยีและบริการบางตัวของ AWS เช่นกัน

นอกจากเรื่องที่เป็นรายใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว AWS มีนโยบายที่สนับสนุนการให้บริการคลาวด์เพื่อรองรับการใช้งานเพื่อสาธารณประโยชน์ 

“เรามีเหตุการณ์โควิด-19 ที่เห็นได้ชัดเจนมาก คลาวด์คอมพิวติ้งเป็นอะไรที่ต้องการจริงๆ เพราะสามารถเปิดใช้งานได้ทันที ทาง AWS ก็มีนโยบายในการให้การสนับสนุนบริการคลาวด์เพื่อสาธารณะประโยชน์”

หากประเทศไทยมีการใช้งานระบบคลาวด์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก รัฐบาลไทยมีการประยุกต์ใช้ระบบคลาวด์ที่มีมาตรฐานสูง จะช่วยในเรื่องภาพลักษณ์โดยรวมของรัฐว่ามีมาตรฐานที่สูง เป็นภาพลักษณ์ทางบวกบนเวทีระดับโลก 

“ทุกวันนี้ ภาครัฐไทยให้บริการผ่านระบบคลาวด์อยู่แล้ว และจะมีการแผ่ขยายในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ เพียงแค่ขณะนี้ยังไม่ใช่ทุกหน่วยงานที่ให้บริการได้แบบเรียลไทม์ ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ยังคงมีงานอีกเยอะที่ต้องทำ แต่ตอนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แล้ว ขอย้ำว่า ทุกหน่วยงานของรัฐต้องมีคลาวด์ไว้ใช้งาน แต่ไม่จำเป็นต้องมาใช้งานกับระบบคลาวด์กลาง โดยคลาวด์กลางที่มีก็เพื่อให้บริการสำหรับหน่วยงานของรัฐที่ไม่สามารถจัดหาคลาวด์มาใช้ได้อย่างรวดเร็ว”

อศินา พรวศิน – สัมภาษณ์
นงลักษณ์ อัจนปัญญา – เรียบเรียง

บทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เปิดวิสัยทัศน์ “สตีเฟ่น แอชเวิร์ธ” แห่ง ฮัทชิสัน พอร์ท ทรานส์ฟอร์ม “แหลมฉบัง” ดันไทยสู่ฮับด้านโลจิสติกส์

ความสำเร็จของลูกค้าและคู่ค้า คือ ความยั่งยืนของ “ไอบีเอ็ม”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
0ผู้ติดตามติดตาม

Lastest News

AGS ร่วมกับ DIPT ติดปีกสินค้าไทย ขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกับ Amazon

อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ร่วมกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เสริมศักยภาพภาคธุรกิจให้ได้รับประโยชน์จากขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ

สปสช. จับมือกรุงเทพมหานคร ใช้เทคโนโลยีจัดสรรสถานพยาบาลให้ผู้มีสิทธิบัตร

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล จัดสรรสถานพยาบาลประจำแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองที่ยังไม่มีสถานพยาบาลประจำ 1.9 แสนคน

มาม่า โอเค เปิดตัว 2 รสชาติใหม่ ใช้ CHAT GPT ช่วยคิดไอเดียโฆษณา หวังเจาะกลุ่ม Gen Z

บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดตัวมาม่า โอเค 2 รสชาติใหม่ รสหม่าล่าเนื้อ และ เห็ดทรัฟเฟิล นำ CHAT GPT ต่อยอดไอเดียจัดทำเป็นภาพยนตร์โฆษณา

โตชิบ้า ยืนยัน ข่าวขายกิจการในต่างประเทศ ไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจในไทย

บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ ส่งจดหมายชี้แจง กรณีที่มีข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก เกี่ยวกับ “บริษัท โตชิบา คอร์ปอเรชัน จำกัด ปิดดีล ขายกิจการมูลค่า 2 ล้านล้านเยน

SCB 10X เปิดเวที Hackathon เฟ้นหาทีมนักพัฒนา ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยบล็อกเชน

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เปิดเวที “BANGKOK BLOCKATHON 2023” ภายใต้แนวคิด “Blockchain for the Next Billion Users”

GRAMMY x RS ตั้งบริษัทร่วมทุน เตรียมจัด 3 คอนเสิร์ตใหญ่ ก.ค.- ต.ค. นี้ เมืองทองธานี

GMM MUSIC และ RS MUSIC ประกาศจัดตั้ง กิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส (Across The Universe Joint Venture) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมจัดซีรีส์คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์

AWS เชื่อมั่นตลาดคลาวด์พุ่งไม่หยุด เล็งเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดส่ง ‘Lift’ ลุย SMB

อัตราการเติบโตของคลาวด์ในประเทศไทย ปี 2023 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่า 30% AWS เชื่อมั่นแผนรับมือที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มคู่ค้า จัดทีมดูแลลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

Blendata เปิดบริการ Analytics as a Service ในรูปแบบ Pay Per Use

เบลนเดต้า (Blendata) เปิดตัวบริการใหม่ Analytics as a Service บริการวิเคราะห์ข้อมูลครบวงจร รองรับทุกความต้องการด้าน Data Analytics ในรูปแบบการคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง

เซ็นทรัลพัฒนา ผนึก WeChat Pay จัดแคมเปญใหญ่ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผนึก WeChat Pay ผู้ให้บริการ E-Wallet รายใหญ่จากประเทศจีน มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวก รวดเร็ว

ดีป้า จับมือพันธมิตร เปิดตัว Tech Thailand แพลตฟอร์มชุมชนคนสายเทค

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมกับ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด และ บริษัท มิสเตอร์ฟ็อกซ์ จำกัด ร่วมเปิดตัว Tech Thailand

MUST READ

มาเซราติ เผยโฉม ‘MC20 Cielo’ ซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุด ครั้งแรกใน APAC ที่งานมอเตอร์โชว์

มาเซราติ ประเทศไทย เผยโฉมซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุด เอ็มซี 20 เชียโล พร้อมขุมพลัง Nettuno V6 เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

AWS เชื่อมั่นตลาดคลาวด์พุ่งไม่หยุด เล็งเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดส่ง ‘Lift’ ลุย SMB

อัตราการเติบโตของคลาวด์ในประเทศไทย ปี 2023 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่า 30% AWS เชื่อมั่นแผนรับมือที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มคู่ค้า จัดทีมดูแลลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

AGS ร่วมกับ DIPT ติดปีกสินค้าไทย ขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกับ Amazon

อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ร่วมกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เสริมศักยภาพภาคธุรกิจให้ได้รับประโยชน์จากขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ

ศูนย์เรียนรู้ ไฟ-ฟ้า สะท้อนความสำเร็จพื้นที่เรียนรู้ ผ่านเวทีเสวนา “ปิดเทอมสร้างสรรค์ เติมเต็มวันว่าง”

ศูนย์เรียนรู้ ไฟ-ฟ้า ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับกิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์ อัศจรรย์วันว่าง” ประจำปี 2566 จัดโดยกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประสานความร่วมมือกับเครือข่าย

สปสช. ผนึกสวทช. พัฒนานวัตกรรมบริการสุขภาพระบบบัตรทอง

สปสช. และ สวทช. ลงนามความร่วมมือศึกษา วิจัยพัฒนา และการประยุกต์ใช้นวัตกรรม เพื่อการให้บริการด้านสุขภาพของภาครัฐในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
Newsletter

สนใจรับข่าวสารจาก The Story Thailand อัพเดตก่อนใคร สมัคร Newsletter กับเราเพียงกรอกอีเมลเท่านั้น